สมรสเท่าเทียบ พรบ จดทะเบียนสมรส

รับรองเอกสาร ง่ายๆ เพื่อจดทะเบียนสมรสที่ต่างประเทศ:อินเดีย

การตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเป็นเรื่องน่ายินดี และสำหรับคู่รักที่มีความผูกพันกับชาวต่างชาติ การเลือกสถานที่จดทะเบียนสมรสก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สำหรับคู่ของเรา ด้วยแผนการที่จะพำนักอยู่ในประเทศอินเดียเป็นระยะเวลานานกว่าในประเทศไทย การจดทะเบียนสมรส ณ ประเทศอินเดียจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและเหมาะสมกว่า เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินชีวิตและจัดการเรื่องต่างๆ ในอนาคต

ภาพรวมระยะเวลาและขั้นตอนการดำเนินการ

กระบวนการเตรียมเอกสารเพื่อไปจดทะเบียนสมรสที่ประเทศอินเดียของเรานั้น โดยรวมแล้วใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งรวมถึงขั้นตอนการขอเอกสารต่างๆ ในประเทศไทย การแปลเอกสาร การยื่นขอการรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และการยื่นขอการรับรองเอกสารพร้อมกับการขอวีซ่า ณ ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า VFS Global India ทั้งนี้ ระยะเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเอกสารและความรวดเร็วในการดำเนินการของแต่ละหน่วยงาน

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม

รายการเอกสารหลักที่จำเป็น (บัตรประชาชน, สูติบัตร, ใบรับรองโสด, ทะเบียนบ้าน)

จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นไปยัง VFS Global India เจ้าหน้าที่ได้แจ้งรายการเอกสารหลักที่จำเป็นสำหรับการยื่นขอการรับรองเพื่อจดทะเบียนสมรส ซึ่งประกอบด้วย:

  1. บัตรประจำตัวประชาชน: เอกสารยืนยันตัวตนที่สำคัญ
  2. สูติบัตร: เอกสารแสดงข้อมูลการเกิด
  3. ใบรับรองโสด: เอกสารยืนยันสถานภาพโสดของผู้ยื่นคำร้อง
  4. ทะเบียนบ้าน: เอกสารแสดงที่อยู่ปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือการตรวจสอบกับหน่วยงานทะเบียนสมรสในเมืองที่คู่สมรสพำนักอยู่ในประเทศอินเดียอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเอกสารอื่นใดที่จำเป็นเพิ่มเติม นอกเหนือจากรายการข้างต้น

ความสำคัญของการแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ

เอกสารราชการของไทยทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น จำเป็นต้องได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องและครบถ้วน เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐของอินเดียสามารถตรวจสอบและทำความเข้าใจเนื้อหาในเอกสารได้

ขั้นตอนการยื่นขอการรับรองเอกสารจากหน่วยงานภาครัฐของไทยและสถานทูตอินเดีย

หลังจากที่เอกสารทั้งหมดได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว จะต้องนำไปยื่นขอการรับรองจากสองหน่วยงานหลักในประเทศไทย ได้แก่:

  1. กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ: เพื่อรับรองความถูกต้องของการแปลและลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ
  2. สถานทูตอินเดียประจำประเทศไทย (ผ่าน VFS Global): เพื่อรับรองเอกสารที่ผ่านการรับรองจากกรมการกงสุลอีกครั้ง ก่อนนำไปใช้ในการจดทะเบียนสมรสในประเทศอินเดีย

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศอินเดียเพื่อจดทะเบียนสมรส จะต้องดำเนินการขอวีซ่าควบคู่ไปด้วย ซึ่งในกรณีของเรา ได้เลือกที่จะยื่นขอวีซ่าประเภทติดเล่มพร้อมกับการยื่นขอการรับรองเอกสาร ณ VFS Global India ในคราวเดียวกัน

ขั้นตอนที่ 1: การขอใบรับรองโสดจากสำนักงานเขต

การติดต่อและยื่นเอกสารที่สำนักงานเขตลาดพร้าว (กรณีศึกษา)

เนื่องจากผู้เขียนมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จึงได้ติดต่อและเดินทางไปยังสำนักงานเขตลาดพร้าวเพื่อดำเนินการขอใบรับรองโสด

เอกสารและพยานที่ต้องนำไปแสดง

ในการยื่นขอใบรับรองโสดที่สำนักงานเขตลาดพร้าว เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าต้องเตรียมเอกสารดังนี้:

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำร้อง
  • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ยื่นคำร้อง
  • พยานบุคคลจำนวน 2 ท่าน พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของพยาน (บิดา มารดา ญาติ หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือ)
  • (เพิ่มเติมในกรณีของผู้เขียน) สูติบัตรของผู้ยื่นคำร้อง

เมื่อเดินทางไปถึงสำนักงานเขต ให้ติดต่อฝ่ายปกครองเพื่อยื่นเอกสารและกรอกแบบฟอร์มคำร้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำเอกสารไปตรวจสอบความถูกต้องกับฝ่ายทะเบียน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีระบบ

ประสบการณ์การขอเอกสารฉบับภาษาอังกฤษจากสำนักงานเขต

ระหว่างการดำเนินการ ผู้เขียนได้สอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขอเอกสารฉบับภาษาอังกฤษโดยตรงจากสำนักงานเขต ซึ่งเดิมทีเข้าใจว่าเอกสารภาษาอังกฤษจะมีการจัดทำสำหรับผู้ที่เกิดหลังปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและพบว่าสามารถออกเอกสารสำคัญต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษได้เช่นกัน ซึ่งรวมถึง สูติบัตร บัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้าน โดยมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยประมาณ 10-20 บาทต่อฉบับ ถือเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายในการแปลเอกสารด้วยตนเอง

การกรอกแบบฟอร์มและการรับเอกสารใบรับรองโสดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

หลังจากได้รับการรับรองเอกสารจากฝ่ายทะเบียนแล้ว ให้กลับไปยังฝ่ายปกครองเพื่อกรอกแบบฟอร์มเพิ่มเติม ซึ่งจะเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของคู่สมรสชาวต่างชาติ เช่น ชื่อ นามสกุล อาชีพ และวันที่คาดว่าจะจดทะเบียนสมรส (หากยังไม่แน่นอน สามารถระบุเป็นเดือนและประมาณวันที่ได้) จากนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการจัดพิมพ์ใบรับรองโสดให้ โดยจะได้รับเอกสารทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งหมายความว่าเอกสารทั้งหมดที่จำเป็นในขั้นตอนแรกนี้ ไม่จำเป็นต้องนำไปแปลภายนอกอีกต่อไป

ขั้นตอนที่ 2: การยื่นเอกสารที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

การจองคิวออนไลน์เพื่อยื่นเอกสาร

เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการยื่นเอกสารที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ สาขาแจ้งวัฒนะ ผู้เขียนแนะนำให้ทำการจองคิวออนไลน์ล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ที่กำหนด (https://qlegal.consular.go.th/) อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการจองคิวในช่วงเวลา 11:30 – 13:00 น. เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะทยอยพักรับประทานอาหารกลางวัน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานน้อยลง

ขั้นตอนการยื่นเอกสารและการชำระค่าธรรมเนียมที่กรมการกงสุล สาขาแจ้งวัฒนะ

เมื่อเดินทางไปถึงกรมการกงสุลตามเวลานัดหมาย ให้ขึ้นไปยังชั้น 3 ซึ่งเป็นส่วนงานรับรองนิติกรณ์เอกสาร ยื่น QR Code ที่ได้รับการยืนยันการจองคิวพร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชน จากนั้นรอเรียกชื่อตามลำดับ เมื่อถึงคิว ให้ยื่นเอกสารทั้งหมดแก่เจ้าหน้าที่ พร้อมแจ้งวัตถุประสงค์ในการนำเอกสารไปใช้ (เพื่อจดทะเบียนสมรสที่ประเทศอินเดีย) หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จะแจ้งค่าธรรมเนียมและดำเนินการออกใบเสร็จรับเงิน

ข้อควรระวังเกี่ยวกับช่วงเวลาการยื่นเอกสาร

จากประสบการณ์ของผู้เขียน การจองคิวในช่วงพักกลางวันอาจทำให้เกิดความล่าช้า เนื่องจากจำนวนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานลดลง ดังนั้น การเลือกช่วงเวลาอื่นในการจองคิวจะช่วยให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

ระยะเวลาดำเนินการและประเภทการรับเอกสาร (รับด่วน/ปกติ)

โดยทั่วไป กรมการกงสุลมีบริการรับรองเอกสารทั้งแบบปกติและแบบด่วน (ภายในวันเดียว) อย่างไรก็ตาม ใบรับรองโสดมักจะไม่อยู่ในข่ายของเอกสารที่สามารถรับรองแบบด่วนได้ ดังนั้น จึงต้องรอประมาณ 3 วันทำการ โดยผู้เขียนเลือกที่จะมารับเอกสารด้วยตนเองเพื่อประหยัดเวลา ค่าธรรมเนียมสำหรับการรับรองเอกสารแบบปกติคือฉบับละ 200 บาท และแบบด่วนคือฉบับละ 400 บาท

ข้อแตกต่างสำหรับผู้ที่แปลเอกสารด้วยตนเองหรือจ้างแปล

สำหรับผู้ที่นำเอกสารที่แปลด้วยตนเองหรือจ้างนักแปลมายื่น อาจจะต้องนำเอกสารฉบับจริงแนบมาด้วยเพื่อประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ ควรตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องกับกรมการกงสุลอีกครั้ง แต่ในกรณีของผู้เขียน เนื่องจากได้รับเอกสารฉบับภาษาอังกฤษโดยตรงจากสำนักงานเขต จึงไม่จำเป็นต้องนำเอกสารฉบับจริงมาแสดงอีก

ขั้นตอนที่ 3: การยื่นเอกสารเพื่อให้สถานทูตอินเดียรับรองและขอวีซ่า

การเตรียมเอกสารและการกรอกข้อมูลขอวีซ่าออนไลน์ (กรณีวีซ่าติดเล่ม)

ขั้นตอนสุดท้ายในประเทศไทยคือการยื่นเอกสารทั้งหมดที่ผ่านการรับรองจากกรมการกงสุลแล้ว ไปยัง VFS India พร้อมกับการยื่นขอวีซ่าประเภทติดเล่ม (Paper Visa) ซึ่งเจ้าหน้าที่แนะนำให้ขอเป็นวีซ่าท่องเที่ยวระยะเวลา 1 ปี และสามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงประเภทวีซ่าภายหลังการจดทะเบียนสมรสในประเทศอินเดียได้

ก่อนเดินทางไปยัง VFS India สิ่งสำคัญคือการกรอกข้อมูลขอวีซ่าออนไลน์ให้เรียบร้อยและพิมพ์แบบฟอร์มออกมา โดยสามารถเข้าไปกรอกข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ทางการของรัฐบาลอินเดียเท่านั้น (https://indianvisaonline.gov.in/) โปรดระมัดระวังเว็บไซต์ปลอมที่อาจมีชื่อคล้ายคลึงกัน สำหรับการขอวีซ่าติดเล่ม ให้เลือกที่ปุ่ม “For Regular/Paper Visa” ส่วนผู้ที่ต้องการขอ e-visa ให้เลือกที่ปุ่ม “For eVisa by Bureau of Immigration”

ในการกรอกข้อมูลออนไลน์ จะต้องระบุข้อมูลส่วนตัวต่างๆ และอัปโหลดเอกสารและรูปถ่ายขนาด 2×2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว เอกสารที่ต้องอัปโหลดโดยทั่วไป ได้แก่ สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport), สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (เจ้าหน้าที่อาจมีการแนะนำเอกสารเพิ่มเติม) โดยไม่จำเป็นต้องมีแผนการเดินทางหรือตั๋วเครื่องบินในขั้นตอนนี้

การยื่นเอกสารที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า VFS Global India

เมื่อเดินทางไปถึง VFS India จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยตรวจสอบสัมภาระและแจ้งข้อกำหนดต่างๆ เช่น ห้ามนำแล็ปท็อปเข้าไป และห้ามใช้โทรศัพท์ในอาคาร (กรุณาเปลี่ยนโทรศัพท์เป็นระบบสั่น) จากนั้นให้เข้าไปนั่งรอตามหมายเลขที่ได้รับ เมื่อถึงคิว ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการยื่นเอกสารเพื่อขอการรับรองสำหรับจดทะเบียนสมรสในประเทศอินเดีย เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้ยื่นเอกสารสำหรับการรับรองที่เคาน์เตอร์ Consular ส่วนการยื่นขอวีซ่าสามารถดำเนินการที่เคาน์เตอร์ปกติได้

ขั้นตอนการยื่นขอการรับรองเอกสารจากสถานทูตอินเดีย ณ VFS Global

หลังจากยื่นเอกสารขอวีซ่าและชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว ให้ไปยังเคาน์เตอร์ Consular เพื่อยื่นเอกสารสำหรับการรับรอง เจ้าหน้าที่จะให้กระดาษมาเพื่อให้เขียนจดหมายถึงสถานทูตอินเดีย โดยมีเนื้อหาประมาณว่า ขอความอนุเคราะห์สถานทูตฯ ในการประทับตรารับรองนิติกรณ์เอกสารที่แนบมา เพื่อนำไปใช้ในการจดทะเบียนสมรสในประเทศอินเดีย (สามารถใช้เครื่องมือแปลภาษาออนไลน์ช่วยในการร่างจดหมายได้)

การเขียนจดหมายเพื่อขอความอนุเคราะห์ลงตรารับรองนิติกรณ์เอกสาร

เนื้อหาสำคัญที่ควรระบุในจดหมายถึงสถานทูตอินเดีย ได้แก่:

  • เรียน ท่านเจ้าหน้าที่สถานทูตอินเดีย
  • ความประสงค์ในการขอรับรองนิติกรณ์เอกสาร
  • ระบุรายการเอกสารที่แนบมาพร้อมคำร้อง
  • แจ้งวัตถุประสงค์ในการนำเอกสารไปใช้ (เพื่อจดทะเบียนสมรส ณ ประเทศอินเดีย)
  • ลงชื่อและวันที่

ควรเตรียมสำเนาหนังสือเดินทาง (หน้าที่มีรูปถ่าย) ติดตัวไปด้วยประมาณ 3-4 แผ่น เพื่อใช้ประกอบการยื่นคำร้อง

การชำระค่าธรรมเนียมสำหรับการรับรองเอกสารและวีซ่า

เมื่อเจ้าหน้าที่ Consular ตรวจสอบเอกสารเรียบร้อยแล้ว จะนำไปสู่ขั้นตอนการชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งโดยประมาณจะอยู่ที่ฉบับละ 450 บาท หลังจากชำระเงินแล้ว จะได้รับใบบิล 2 ใบ คือ ใบบิลสำหรับการขอวีซ่า และใบบิลสำหรับการขอรับรองนิติกรณ์เอกสาร

บทสรุปและขั้นตอนหลังจากได้รับการรับรองเอกสาร

การตรวจสอบสถานะและรับเอกสารคืน

หลังจากยื่นเอกสารทั้งหมดแล้ว จะต้องรอประมาณ 3 วันทำการเพื่อรับเอกสารคืน สามารถตรวจสอบสถานะได้ทางเว็บไซต์ของสถานทูตอินเดีย (เนื่องจากเว็บไซต์ของ VFS อาจแสดงผล “No Record Found”) เมื่อถึงกำหนดรับเอกสาร ให้นำใบบิลทั้งสองใบไปยื่นเพื่อรับเอกสารที่ได้รับการรับรองและวีซ่า (ในกรณีที่ยื่นพร้อมกัน)

ขั้นตอนต่อไป: การเดินทางไปยังประเทศอินเดียเพื่อจดทะเบียนสมรส

เมื่อได้รับการรับรองเอกสารและวีซ่า

เป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปก็คือการเดินทางไปยังประเทศอินเดียเพื่อดำเนินการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายท้องถิ่นต่อไป ขอให้ทุกท่านที่กำลังเตรียมตัวจดทะเบียนสมรสในต่างแดนประสบความสำเร็จและมีความสุขกับชีวิตคู่ครับ!

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

คำถาม 1: ระยะเวลาในการดำเนินการขอรับรองเอกสารทั้งหมดนานเท่าไหร่?

โดยรวมแล้ว ระยะเวลาในการดำเนินการขอรับรองเอกสารเพื่อจดทะเบียนสมรสที่ประเทศอินเดีย (รวมถึงการขอวีซ่า) อาจใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการดำเนินการของแต่ละหน่วยงานและความพร้อมของเอกสาร

คำถาม 2: จำเป็นต้องมีพยานในการขอใบรับรองโสดที่สำนักงานเขตหรือไม่?

ขึ้นอยู่กับระเบียบของแต่ละสำนักงานเขต ในกรณีของสำนักงานเขตลาดพร้าว จำเป็นต้องมีพยานจำนวน 2 ท่าน พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของพยาน

คำถาม 3: สามารถขอเอกสารสำคัญ (สูติบัตร, บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน) เป็นภาษาอังกฤษได้หรือไม่?

จากประสบการณ์ของผู้เขียน สามารถขอเอกสารสำคัญบางประเภทเป็นภาษาอังกฤษได้โดยตรงจากสำนักงานเขต (โดยเฉพาะผู้ที่เกิดหลังปี พ.ศ. 2540) แต่ควรสอบถามเจ้าหน้าที่เพื่อความแน่ใจและตรวจสอบค่าธรรมเนียม

คำถาม 4: ควรจองคิวออนไลน์เพื่อยื่นเอกสารที่กรมการกงสุลหรือไม่?

ขอแนะนำให้จองคิวออนไลน์ล่วงหน้าเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการยื่นเอกสาร และควรหลีกเลี่ยงการจองคิวในช่วงเวลาพักกลางวัน (11:30 – 13:00 น.)

คำถาม 5: สามารถยื่นขอการรับรองเอกสารและวีซ่าที่ VFS Global India พร้อมกันได้หรือไม่?

สามารถทำได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เขียนเลือกปฏิบัติ เพื่อประหยัดเวลาและขั้นตอนในการดำเนินการ โดยจะต้องยื่นเอกสารสำหรับการรับรองที่เคาน์เตอร์ Consular และยื่นขอวีซ่าที่เคาน์เตอร์ปกติ

ขอบคุณที่มา
https://travel.trueid.net/detail/VQqo04ORPZwz

*** ข้อมูลในบทความนี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน หรือมีความคลาดเคลื่อนได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมกับแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อความถูกต้อง***

แนะนำบริการ ของ First Choice Translation

การเลือกใช้บริการ แปลภาษา รับรองเอกสาร และ จดทะเบียนสมรสกับคู่สมรสชาวต่างชาติแบบครบวงจร จาก First Choice Translation มีข้อดีและเหตุผลสำคัญมากมาย ดังนี้ครับ:

1. ความสะดวกสบายแบบครบวงจร (One-Stop Service):

  • ประหยัดเวลาและความยุ่งยาก: แทนที่จะต้องติดต่อและประสานงานกับหลายหน่วยงาน ทั้งนักแปลอิสระ สำนักงานรับรองเอกสาร กรมการกงสุล สถานทูต และสำนักงานเขต/อำเภอ คุณสามารถจัดการทุกอย่างได้จบในที่เดียวกับ First Choice Translation ช่วยลดความสับสนและขั้นตอนที่ซับซ้อนลงไปมาก
  • ลดความผิดพลาด: การมีผู้เชี่ยวชาญดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ช่วยลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดในการเตรียมเอกสาร การแปลที่ไม่ถูกต้อง หรือการดำเนินการตามขั้นตอนที่ไม่ครบถ้วน ซึ่งอาจนำไปสู่ความล่าช้าหรือการถูกปฏิเสธคำร้องได้

2. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ (Expertise and Experience):

  • นักแปลภาษาผู้เชี่ยวชาญ: First Choice Translation มีทีมนักแปลภาษาที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายภาษา รวมถึงมีความเข้าใจในศัพท์เฉพาะทางกฎหมายและราชการ ทำให้มั่นใจได้ว่าการแปลเอกสารมีความถูกต้อง แม่นยำ และเป็นไปตามมาตรฐานที่หน่วยงานต่างๆ ยอมรับ
  • ความรู้ความเข้าใจในขั้นตอน: ทีมงานมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในกระบวนการรับรองเอกสารของหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยและสถานทูตต่างประเทศ รวมถึงขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติ ทำให้สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย
  • ประสบการณ์เฉพาะทาง: การจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติมีข้อกำหนดและขั้นตอนที่แตกต่างจากการจดทะเบียนสมรสทั่วไป การใช้บริการจากผู้ที่มีประสบการณ์เฉพาะทางจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ

3. ความน่าเชื่อถือและไว้วางใจ (Reliability and Trust):

  • บริษัทที่มีชื่อเสียง: First Choice Translation เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในด้านบริการแปลภาษาและรับรองเอกสาร คุณสามารถมั่นใจในคุณภาพของบริการและความเป็นมืออาชีพของทีมงาน
  • ความโปร่งใสและชัดเจน: บริษัทที่มีมาตรฐานมักจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าบริการ ขั้นตอนการดำเนินการ และระยะเวลาที่ชัดเจน ทำให้คุณสามารถวางแผนและติดตามความคืบหน้าได้อย่างมั่นใจ
  • การรักษาความลับ: ข้อมูลส่วนตัวและเอกสารสำคัญของคุณจะได้รับการดูแลและเก็บรักษาเป็นความลับอย่างเคร่งครัด

4. การสนับสนุนและคำปรึกษา (Support and Consultation):

  • คำแนะนำเฉพาะบุคคล: ทีมงานสามารถให้คำปรึกษาและแนะนำเกี่ยวกับเอกสารที่จำเป็น ขั้นตอนการดำเนินการ และข้อควรระวังต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคู่สมรสชาวต่างชาติของคุณ
  • การแก้ไขปัญหา: หากมีปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการดำเนินการ ทีมงานจะช่วยแก้ไขปัญหาและหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับคุณ
  • การติดตามผล: บริษัทที่มีบริการครบวงจรมักจะมีการติดตามผลและแจ้งความคืบหน้าให้คุณทราบอย่างสม่ำเสมอ

5. ความถูกต้องตามกฎหมาย (Legal Compliance):

  • เอกสารที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง: บริการรับรองเอกสารจาก First Choice Translation จะดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องของกรมการกงสุลและสถานทูต ทำให้มั่นใจได้ว่าเอกสารของคุณจะได้รับการยอมรับตามกฎหมาย
  • คำแนะนำด้านกฎหมายเบื้องต้น: แม้จะไม่ใช่บริการทางกฎหมายโดยตรง แต่ทีมงานที่มีประสบการณ์สามารถให้คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติได้

สรุป:

การเลือกใช้บริการ แปลภาษา รับรองเอกสาร และ จดทะเบียนสมรสกับคู่สมรสชาวต่างชาติแบบครบวงจร จาก First Choice Translation เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อให้กระบวนการเตรียมเอกสารและการจดทะเบียนสมรสของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็ว ถูกต้องตามกฎหมาย และลดความยุ่งยากต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น คุณจะได้รับความสะดวกสบาย ความเชี่ยวชาญ ความน่าเชื่อถือ และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้มีประสบการณ์ครับ

ติดต่อศูนย์แปลเอกสารเฟิสท์ชอยซ์ทรานสเลชัน

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับบริการกับศูนย์แปลเอกสาร เฟิสท์ชอยซ์ทรานสเลชันได้แล้ววันนี้ที่
LINE OFFICIAL ACCOUNT: https://page.line.me/fc2009?openQrModal=true หรือ

สำนักงานใหญ่ สะพานควาย จตุจักร

อาคารภูมิเดชา ชั้น 4 ซอยประดิพัทธ์ 10 ถ.ประดิพัทธ์ เเขวง/เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
โทร. 082-3256236 , 065-3958392
https://goo.gl/maps/zUrGGGGWSrtMvjDa7

ศูนย์แปลเอกสารสาขาภูเก็ต ถ.ปฏิพัทธ์ เมืองภูเก็ต

เลขที่ 7/4 ถ.ปฏิพัทธ์ ต.ตลาตเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000
โทร. 086-3669255 
https://goo.gl/maps/s21JAisaAnRPvxtHA